ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร? จริงๆ แล้วภาษีหัก ณ ที่จ่ายต้องกี่เปอร์เซ็นต์

หลายคนที่กำลังเริ่มทำธุรกิจหรือกำลังเริ่มจดเป็นนิติบุคคล ก็อาจจะสงสัยและยังไม่ชัดเจนเรื่อง ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ว่าจริงๆแล้ว ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร? และภาษีหัก ณ ที่จ่ายกี่เปอร์เซ็นต์?  ซึ่งในบทความนี้เราจะมาลงรายละเอียดเรื่องนี้กันค่ะ

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือ?

การหักภาษี ณ ที่จ่าย ก็คือการหักภาษีไว้ล่วงหน้าซึ่งอาจจะเป็นการจ้างงานหรืองานบริการหรืออื่นๆ เดี๋ยวเราจะไปลงลึกรายละเอียดในหัวข้อถัดไปกันนะคะ แต่ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจก่อนว่าการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะประกอบไปด้วยกัน 3 ส่วนคือ ผู้จ่ายเงิน ค่าอะไร และก็ผู้รับเงินค่ะ ทั้ง 3 ส่วนนี้คืออะไรมาดูกันค่ะ

  1. ค่าอะไร – จ่ายเงินเป็นค่าอะไร ยกตัวอย่างเช่น ค่าบริการ ค่าขนส่ง หรืออื่นๆ ซึ่งแต่ละแบบก็จะหักภาษี ณ ที่จ่าย เปอร์เซ็นต์ไม่เท่ากันนะคะ รายละเอียดด้านล่างค่ะ
  2. ผู้รับเงิน – ก็คือผู้ที่มีเงินได้ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่า ผู้ว่าจ้างจ้างเรา 100 บาท อันที่จริงแล้วเราจะต้องได้รับเงิน 100 บาท แต่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผู้รับเงินจะได้รับเงินจริงๆ 97 บาท นั่นเองค่ะ เพราะถูกหักภาษีล่วงหน้า 3 เปอร์เซ็นต์จากผู้จ่ายเงิน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถขอคืนภาษีได้หากเราไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีค่ะ

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ต้องกี่จ่ายกี่เปอร์เซนต์?

ค่าขนส่งถ้าเราจะหักภาษี ณ ที่จ่าย บริษัทขนส่งจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นกิจการขนส่งหรือ

โลจิสติกส์ บริการขนส่งจะหักอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์

หากมีการจ้างทำโฆษณาหรือจ่าง agency เพื่อทำโฆษณาโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ของเรา ในส่วนนี้จะถือว่าเป็นค่าโฆษณา ดังนั้นจะสามารถหัก ณ ที่จ่าย 2 เปอร์เซ็นต์ค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีที่จ้างรีวิวสินค้า หรือจ้าง bueaty bloger รีวิวสินค้าในส่วนนี้จะไม่ได้อยู่ในหมวดโฆษณานะคะ จะถือว่าเป็นค่าจ้างบริการจะหักที่ 3 เปอร์เซ็นต์

จะเป็นค่าจ้างบริการทั่วไปยกตัวอย่าง เช่น

  • ค่าจ้างทำเว็บไซต์
  • ค่าตกแต่งภายใน
  • ค่าจ้างทำนามบัตร
  • ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบริการสถานที่
  • ค่าจ้างทำ Graphic Design
  • ค่าจ้างช่างถ่ายรูป
  • ค่าจ้างรีวิวสินค้า
  • และค่าบริการอื่นๆ

ในส่วนนี้จะเป็นค่าบริการทั้งหมด ซึ่งค่าบริการหัก ณ ที่จ่าย 3 เปอร์เซนต์ ค่ะ

ให้ดูในส่วนวัสดุเป็นหลัก สมมติว่า เราเป็นกิจการขายเสื้อผ้า แล้วเราจ้างอีกบริษัทหนึ่งตัดเย็บเสื้อผ้าให้ โดยเราเป็นคนซื้อผ้าเพื่อให้บริษัทนั้นเป็นคนตัดเย็บให้เพื่อให้ได้สินค้า กรณีนี้ถือว่าเป็นค่าจ้างทำของสามารถหักภาษี ณ ที่จ่าย 3 เปอร์เซ็นต์ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีเราจ้างบริษัทหนึ่งตัดเย็บเสื้อผ้าให้และบริษัทนั้นเป็นคนซื้อผ้าหรือวัสดุอื่นๆ เอง ในกรณีนี้จะไม่ได้เป็นค่าจ้างทำของนะคะ จะเป็นการซื้อสินค้าแทนค่ะ จะไม่สามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ค่ะ

สำหรับการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ต้องดูว่าใครมีอำนาจในการถือกุญแจ และต้องมีสัญญาเช่าที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราไปเช่า อาคาร รถยนต์ หรือห้อง ในส่วนนี้ถ้าเรามีอำนาจในการถือกุญแจและมีการทำสัญญาเช่าชัดเจน ถือว่าเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ค่ะ แต่ถ้าเราไปเช่นห้องเพื่อสัมนาเป็นครั้งคราว หรือเช่ารถพร้อมคนขับ กรณีนี้ถือว่าเป็นค่าบริการจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3 เปอร์เซ็นต์ค่ะ

ยอดไม่ถึง 1,000 บาท ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

หากยอดเงินได้ไม่ถึง 1,000 บาท เราไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายค่ะ แต่ถ้าเป็นค่าบริการอื่น อย่างเช่น ค่าอินเทอร์เน็ตหรือค่าโทรศัพท์ ที่มีการจ่ายตามสัญญาในส่วนนี้ต้องหักษี ณ ที่จ่าย ถึงแม้ว่ายอดจะไม่ถึง 1,000 บาทค่ะ

สำหรับคนที่เริ่มจดบริษัทหรือแม้กระทั้งผู้รับเงินก็อาจจะ งง ว่า ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือ? ไม่มากก็น้อย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเรื่องภาษีมากขึ้นนะคะ และสุดท้ายนี้หากเรามีเงินได้ก็อย่าลืมเสียภาษีตามกฏหมายกันด้วยนะคะ

หากท่านไหนที่สนใจเกี่ยวกับระบบ SunSystems, CheckSCM หรือบริการอื่นๆ ของ IMAS
สามารถติดต่อได้ที่ sale@i-mas.net สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-666740
หรือ Line Official : @imas.official (มี @ ด้วยนะคะ)

Reference : https://www.rd.go.th/27942.html