ส่องเทรนด์แฟรนไชส์ 2025 โอกาสทองที่ไม่ควรพลาด

ในปี 2023 ที่ผ่านมา ธุรกิจแฟรนไชส์ทั่วโลกได้โชว์ศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างน่าทึ่ง โดยสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ตลาดแฟรนไชส์ไทยก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน ด้วยมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท จากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจ แฟรนไชส์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ประตูสู่การเริ่มต้นธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่มาพร้อมกับความท้าทายเฉพาะตัว สำหรับผู้ที่มีเงินทุนและต้องการสร้างธุรกิจที่มั่นคง การลงทุนในแฟรนไชส์ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งและ Know How ด้านการตลาดและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงที่มักเกิดขึ้นกับธุรกิจที่เริ่มต้นจากศูนย์

ในปี 2025 นี้ เทรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์จะเป็นอย่างไร และคุณควรลงทุนในแฟรนไชส์ไหนบ้าง เรามาสำรวจแนวโน้มและโอกาสที่รออยู่กันเถอะ!

ส่องเทรนด์ตลาดอาเซียน

ASEANUP แพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่สนใจด้านธุรกิจและพัฒนาการเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้จัด Top 5 ธุรกิจแฟรนไชส์น่าจับตาในปี 2025 ได้แก่

  1. สุขภาพ และเวลเนส เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจมากขึ้น แฟรนไชส์ที่มีศักยภาพในส่วนนี้ ได้แก่ ยิม และฟิตเนส เช่น
    • “บูทีคยิม, ยิม 24 ชั่วโมง” หรือแบบที่รวมเป็นศูนย์เวลเนสแบบครบวงจร
    • “อาหารเพื่อสุขภาพ” เช่น ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่เน้นให้บริการอาหารออร์แกนิก หรือบริการอาหารเพื่อคนรักสุขภาพแบบ Delivery
    • “บริการเพื่อสุขภาพ” เช่น โค้ชชิงด้านสุขภาพ, ที่ปรึกษาทางโภชนาการ, สตูดิโอโยคะ เป็นต้น
  2. บริการด้านเทคโนโลยี เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แฟรนไชส์ที่ให้บริการโซลูชันทางเทคโนโลยีก็จะเติบโตต่อไป โอกาสสำคัญๆ ได้แก่
    • “บริการ IT Support” เพื่อเสนอบริการที่จำเป็นสำหรับการรักษาประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, หรือระบบการจัดการข้อมูลบัญชี อย่าง SunSystems เป็นต้น
    • “โซลูชันอีคอมเมิร์ซ” ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเว็บไซต์ ไปจนถึงกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล
    • “ระบบอัตโนมัติภายในบ้าน” การให้บริการติดตั้ง และบำรุงรักษาอุปกรณ์สมาร์ตโฮมเป็นช่องทางที่เติบโตขึ้น
  3. อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงมีศักยภาพสำหรับโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ตัวเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่
    • “Fast-Casual Dining” แบรนด์ที่ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับตัวเลือกอาหารรสเลิศ ที่ไม่ใช่อาหารฟาสต์ฟู้ด โดยไม่ต้องรอนานได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่ผู้บริโภคที่ไม่มีเวลา 
    • “ตัวเลือกที่คำนึงถึงสุขภาพ” เช่น แฟรนไชส์อาหารมังสวิรัติ, อาหารปลอดกลูเตน ให้บริการแก่ลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินและสนใจในอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้มีกลุ่มตลาดที่ขยายตัว
    • “คาเฟ่” ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองที่ผู้บริโภคชื่นชอบกาแฟสูตรพิเศษและบรรยากาศที่อบอุ่น 
  4. การปรับปรุงและบำรุงรักษาบ้าน เนื่องจากบ้านหรือคอนโดมิเนียม คือปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต แฟรนไชส์ที่ให้บริการในการปรับปรุงและดูแลบ้านจึงเป็นที่สนใจมากขึ้น ๆ เพราะคนที่พอมีรายได้ก็ไม่อยากเสียเวลากับงานบ้าน ต่อไปนี้คือบริการที่ควรพิจารณา
    • “บริการทำความสะอาด” ด้วยต้นทุนเริ่มต้นที่ต่ำและมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยมักจะเสนอการให้บริการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มช่องทางของรายได้ 
    • การจัดสวนและดูแลสนามหญ้า” สำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการบำรุงรักษาทรัพย์สินและความน่าดึงดูดใจ ทำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและทำธุรกิจซ้ำ
    • “บริการซ่อมแซมบ้าน” แฟรนไชส์ที่เชี่ยวชาญด้านงานประปา ไฟฟ้า หรือบริการ HVAC สามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการในท้องถิ่นที่สม่ำเสมอและแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการปรับปรุงและอัปเกรดบ้าน
  5. บริการดูแลผู้สูงอายุ ด้วยจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น บริการดูแลผู้สูงอายุจึงมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก ซึ่งบริการที่น่าสนใจคือ
    • “การดูแลที่บ้าน”  คือ การให้บริการดูแลส่วนตัว มอบความเป็นเพื่อน และช่วยเหลือผู้สูงอายุที่บ้านของพวกเขา นับเป็นอีกโอกาสทางการตลาดที่น่าสนใจ
    • “สถานดูแลผู้สูงอายุ” การลงทุนในแฟรนไชส์ที่จัดการหรือดำเนินการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สามารถเติมเต็มความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตตามลำพังของผู้สูงอายุได้

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งจากความขาดประสบการณ์ของผู้ให้สิทธิ์แฟรนไชส์ การแข่งขันที่รุนแรง การสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ และการปรับตัวต่อเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ ผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับความท้าทายเหล่านี้ และพร้อมที่จะรับมือกับปัจจัยต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน

หากท่านไหนที่สนใจเกี่ยวกับระบบ SunSystems หรือบริการอื่นๆ ของ IMAS สามารถติดต่อได้ที่ Chanaporn@i-mas.net หรือ sunsupport@i-mas.net สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-6667400 หรือ Line Official : @imas.official (มี @ ด้วยนะครับ)

Reference : https://www.taokaecafe.com/business-news-detail?t=1644